หากจะพูดถึง เกมเดิมพันที่เกี่ยวกับลูกเต๋า หลายๆคนต้องนึกถึงเกมไฮโล อย่างแน่นอน สำหรับใครที่ไม่เคยเล่นหรือรู้จักเพียงแค่ชื่อคงคิดว่าเกมนี้มันเป็นการพนันง่าย ๆ โดยที่มีแค่ลูกเต๋ากับถ้วยเขย่า ส่วนนักพนันก็มีหน้าที่แค่แทงสูง-ต่ำกันแค่นั้น แต่เอาเข้าจริง ๆ ไฮโล ถึงจะไม่ได้เล่นยาก แต่มันก็ไม่ได้เล่นง่ายเหมือนเกมพนันเกมอื่น หรืออาจจะเรียกได้ว่าถ้านักพนันคนไหนไม่เข้าใจแทงกันมั่ว ๆ อาจจะหมดตัวกันแน่นอน วันนี้ ทาง casinokub จะพาไปรู้จักกับเกมเขย่าลูกเต๋ายอดฮิตที่ คาสิโนออนไลน์ ต้องมีกันครับ
ความเป็นมาของเกมไฮโล
หลายๆคนมีความเชื่อว่าเกมเดิมพันชนิดนี้นั้นมีต้นกำเนิดมาจากกลุ่มชนผู้ใช้แรงงานในประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานก่อสร้างทั้งหลายที่นิยมเอาก้อนอิฐหรือก้อนดินเผามาเขียนตัวเลขไว้ทั้ง 6 ด้าน โดยวิธีการเล่นสมัยนั้นก็ง่าย ๆ เพียงแค่ทายกันว่าจะออกเลขอะไรแล้วก็โยนลงพื้น ถ้าใครทายถูกก็ถือว่าชนะการเดิมพัน จากนั้นก็มีการพัฒนารูปแบบการเล่นไฮโลและกติกาใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความท้าทายจนกลายเป็นที่นิยมใน คาสิโนออนไลน์ ในทุกวันนี้
เว็บเดิมพันไฮโลออนไลน์ ที่น่าเชื่อถือ
กฎ กติกา วิธีการเล่นไฮโลออนไลน์
สำหรับวิธีการเล่น ไฮโล นั้น สิ่งสำคัญกว่าการออกแต้มของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก ก็คือวิธีการแทงหรือวิธีการวางเดิมพันครับ ซึ่งในแต่ละรูปแบบการแทงที่เราเลือกไปนั้นจะมีอัตราจ่ายที่แตกต่างกันไป บางแบบก็มีอัตราจ่ายเยอะ บางแบบก็มีอัตราจ่ายน้อย จนไม่รู้ว่าจะแทงอันไหนดี ซึ่งถ้าไม่เข้าใจในจุดนี้มีเท่าไรก็แทงเสียแน่นอน

รูปแบบการแทงไฮโล
วันนี้เราจะเขานำเสนอ 8 รูปแบบการแทงไฮโลที่เป็นมาตรฐานซึ่งนักพนันควรศึกษาเบื้องต้นไว้
- การแทงแบบ ต่ำ – สูง
โดยปกติบ่อนตามบ่อนคาสิโนต่างๆหรือ คาสิโนออนไลน์ บางแห่งจะเรียกวิธีการแทงแบบนี้ว่า “แทงแบบเล็ก-ใหญ่” ซึ่งเป็นการแทงโดยใช้แต้มรวมของลูกเต๋าทั้ง 3 ลูกเป็นตัวตัดสิน หากแต้มรวมอยู่ระหว่าง 4-10 แต้มจะให้ถือว่าเป็น “ต่ำ” แต่หากแต้มรวมอยู่ที่ 11-17 แต้มจะถือว่าเป็น “สูง” ส่วนอัตราจ่ายจะอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุน
ยกตัวอย่าง ถ้าเราแทงสูง 100 บาท ถ้าทอยลูกเต๋าออกมาแล้วผลรวมได้ 15 จะถือเป็นแต้มสูง แบบนี้เราก็จะได้เงินกลับมา 200 บาท (ทุน 100 กำไร 100)
- การแทงแบบคู่-คี่
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการแทงที่มีอัตราแพ้ชนะ เท่ากัน โดยให้นักพนันทายว่าแต้มรวมที่ออกมา จะเป็นเลขคู่หรือเลขคี่ หากเดิมพันนถูกก็จะได้รับเงินรางวัล อัตราจ่ายอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุนเช่นกัน
ยกตัวอย่าง ถ้าเราแทงคี่ 100 บาท และผลรวมออกมาเป็น 13 แบบนี้จะถือว่าเราชนะ และได้รับเงินกลับมา 200 บาท (ทุน 100 กำไร 100)
- การแทงแบบเต็งเดี่ยว
สำหรับวิธีการแทงแบบนี้ถือว่าค่อนข้างเข้าใจง่ายครับ เพียงแค่ทายหมายเลข 1 – 6 เท่านั้น หากทอยลูกเต๋าออกมาแล้วมี 1 ใน 3 ลูกที่ออกผลตรงกับที่เราแทงไว้ ก็ถือว่าชนะในตานั้น โดยอัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 1 ไม่รวมทุน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราแทงหมายเลข 3 ไป 100 บาทและผลการทอยลูกเต๋าออกมาโดยมีลูกเต๋าลูกใดลูกหนึ่งออกหน้า 3 เราก็จะชนะและได้รับเงินรางวัล 200 บาท (ทุน 100 กำไร 100)
- การแทงแบบโต๊ด
วิธีการแทงแบบเจาะจงหมายเลขพร้อมกัน 2 หมายเลข (1-6) โดยทายว่าลูกเต๋าจะออกหมายเลขอะไรกับหมายเลขอะไร โดยเงื่อนไขการชนะก็คือนักเดิมพันจะต้องทายให้ถูก 2หมายเลข ใน 3หมายเลข ลูก เท่านั้น โดยมีอัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 5 ไม่รวมทุน
ยกตัวอย่าง ถ้าแทงหมายเลข 1 กับหมายเลข 5 และวางเดิมพัน 100 บาท โดยผลการทอยลูกเต๋าสองในสามลูกนี้ออกหมายเลข 1 กับหมายเลข 5 จะถือว่าเราชนะ จะได้รับเงินกลับบ้านไปทั้งหมดเป็น 600 บาท (ทุน 100 กำไร 500)
- การแทงแบบแต้มรวม
สำหรับการแทงแต้มรวมถือว่าเป็นวิธีการแทงที่มีอัตราการจ่ายหลากหลายที่สุด เพราะเราจะต้องทายว่าแต้มรวมของลูกเต๋าทั้งหมดจะได้กี่แต้ม และในแต้มรวมแต่ละแต้มก็จะมีอัตราจ่ายไม่เท่ากันดังนี้
- ถ้าผลรวมเท่ากับ 4 หรือ 17 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 50 ไม่รวมทุน
- ถ้าผลรวมเท่ากับ 5 หรือ 16 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 18 ไม่รวมทุน
- ถ้าผลรวมเท่ากับ 6 หรือ 15 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 14 ไม่รวมทุน
- ถ้าผลรวมเท่ากับ 7 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 17 ไม่รวมทุน
- ถ้าผลรวมเท่ากับ 8 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 8 ไม่รวมทุน
- ถ้าผลรวมอยู่ระหว่าง 9 – 13 แต้ม อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 6 ไม่รวมทุน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราแทงแต้มรวม 7 แต้ม และวางเดิมพัน 100 บาท แล้วผลรวมออกมาเป็น 7 แต้มตามที่เราเดิมพันไว้ เราจะได้รับเงินรางวัล 1,800 บาท (ทุน 100 กำไร 1,700)
- การแทงแบบเต็งคู่
ในรูปแบบการแทงนี้จะคล้ายกับวิธีการแทงโต๊ด คือลูกเต๋าสองในสามลูกจะต้องออกหมายเลขที่เราแทงไว้ เพียงแต่การแทงเต็งคู่จะเป็นการแทงเลขเดียว (1-6) และสองในสามลูกจะต้องออกหมายเลขเดียวกับที่เราแทงไว้ อัตราจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 8 ไม่รวมทุน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราแทงเต็งคู่ 5 ไป 100 บาท ถ้าลูกเต๋าสองในสามลูกออกหมายเลข 5 แบบนี้จะถือว่าเราชนะ ได้รับเงินกลับมา 900 บาท (ทุน 100 กำไร 800) แต่ถ้าออกหมายเลข 5 แค่ลูกเดียวถือว่าเราแพ้ทันที
- การแทงตองแบบไม่เจาะจงตัวเลข
วิธีการชนะในการแทงรูปแบบนี้ก็คือต้องให้ลูกเต๋าทั้ง 3 ลูก ออกหมายเลขเดียวกัน จะเป็นเลขอะไรก็ได้ อัตราการจ่ายคือ แทง 1 จ่าย 24 ไม่รวมทุน
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราแทงตองแบบไม่เจาะจงตัวเลข แล้วเดิมพัน 100 บาท หากลูกเต๋าออกหมายเลข 4 ทั้งสามลูกแบบนี้ถือว่าเราชนะ เงินรางวัลที่จะได้ก็คือ 2500 บาท (ทุน 100 กำไร 2,400)
- การแทงตองแบบเจาะจงตัวเลข
การแทงรูปแบบนี้จะต่างจากการแทงตองทั่วไปคือ เราต้องทายว่าลูกเต๋าทั้งสามลูกจะออกหมายเลขอะไรระหว่าง 1-6 โดยลูกเต๋าทั้งสามลูกจะต้องออกหมายเลขเดียวกับที่เราทายไว้เท่านั้นถึงจะชนะการเดิมพัน อัตราจ่ายอยู่ที่ แทง 1 จ่าย 150
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าแทงตอง หมายเลข6 เดิมพัน 100 บาท แล้วลูกเต๋าออกเลข 6 ทั้งสามลูกถือว่าเราชนะ จะได้รับเงินรางวัล 15,100 บาท (ทุน 100 กำไร 15,000) แต่ถ้าออกหน้าเดียวกันทั้งสามลูกแต่เป็นหมายเลขอื่นก็ถือว่าเราแพ้ครับ